- ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น
ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-based Economy – KBE) งานต่างๆ จำเป็นต้องใช้ความรู้มาสร้างผลผลิตให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น การจัดการความรู้เป็นคำกว้างๆ ที่มีความหมายครอบคลุมเทคนิค กลไกต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนให้การทำงานของแรงงานความรู้ (Knowledge Worker) มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กลไกดังกล่าวได้แก่ การรวบรวมความรู้ที่กระจัดกระจายอยู่ที่ต่างๆ มารวมไว้ที่เดียวกัน การสร้างบรรยากาศให้คนคิดค้น เรียนรู้ สร้างความรู้ใหม่ๆ ขึ้น การจัดระเบียบความรู้ในเอกสาร และทำสมุดหน้าเหลืองรวบรวมรายชื่อผู้มีความรู้ในด้านต่างๆ และที่สำคัญที่สุด คือการสร้างช่องทาง และเงื่อนไขให้คนเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำไปใช้พัฒนางานของตนให้สัมฤทธิ์ผล
ดังนั้น ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สป.วท. จึงได้พัฒนาระบบ KM ขึ้นมา เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้แบ่งปันความรู้และสร้างเสริมองค์ความรู้ที่มีประโยชน์เพื่อนำไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป
เป็นเมนูหลักหนึ่งก็ได้ครับ (ด้านบนใต้ logo banner)
เนื้อหาในคู่มทอการใช้งานละเอียดดีครับ ต่อไปก็จะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการใช้งาน ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมกับเครื่องมือ ตัวนี้ การมีเครื่องมือจัดการความรู้ ก็จะทำให้เราสามารถ ดำเนินการกิจกรรมตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้รวดเห็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องรำลึกอยู่เสมอว่า IT NOT KM หมายความว่า ไอที ไม่ใช่ การจัดการความรู้ แต่เป็นแค่เครื่องมือของการจัดการความรู้เท่านั้น ถึงแม้หน่วยงานจะมีเครื่องมือดี มีประสิทธิภาพขนาดไหน แต่หากขาดคน ในองค์กรเข้าร่ววมด้วย ก็ไม่สามารถทำ km ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มต้น เราน่าจะเริ่มทำ km เพื่อน้อง ๆ ใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำงานใน สป.วท. เอางานที่ง่าย ๆ เ็ป็นความรู้ที่วๆ ไปที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ใหม่ ดีใหมครับ
ขอบคุณค๊าฟพี่อนาวิล
- ล็อกอิน เพื่อแสดงความคิดเห็น